flame-frame.com
มะเร็งในช่องปาก สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัด การฉายแสงรังสีหรือเคมีบำบัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมะเร็งในช่องปากก็สามารถลุกลามและทำให้เสียชีวิตได้! โดยพบว่าการรักษามะเร็งระยะที่ 1-2 ผู้ป่วยจะมีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี มากถึง 60-80% แต่หากรอยโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ อัตราการรอดชีวิตจะลดลงอย่างมาก หรือเพียงประมาณ 0-5% เท่านั้น เพราะเซลล์มะเร็งลุกลามเร็วกว่าที่คิด การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆ จึงช่วยให้โอกาสรอดของผู้ป่วยสูงขึ้น การหมั่นไปพบ ทันตแพทย์สม่ำเสมอถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติของโรคในช่องปาก และเริ่มต้นการรักษาได้ทันท่วงที สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ หู คอ จมูก
การระคายเคืองในช่องปาก นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งช่องปาก เพราะหากเกิดการกระแทกในช่องปากตลอดเวลา เป็นระยะเวลานาน เช่น ฟันแตก ฟันร้าว ปัญหาที่พบบ่อยมาก ขอบฟันคม รวมถึงการใส่ฟันปลอมที่หลวมหรือไม่พอดี จะส่งผลให้เนื้อเยื่อเป็นแผลต่อเนื่อง กลายเป็นแผลเรื้อรัง เนื้อเยื่อบริเวณนั้นอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็งได้ อาจจะต้องตัดชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อที่จะได้ทราบและรักษาได้ทันทีค่ะ 1. มีการปวดหรือการชาเรื้อรังบริเวณในช่องปาก 2. มีเลือดออกในช่องปาก โดยไม่ทราบสาเหตุ 3. เคี้ยวหรือกลืนอาหารลำบาก 4. มีก้อนเนื้อบวมโต หรือแผลเรื้อรัง ในช่องปาก 1. ตรวจเนื้อเยื่อในปากด้วยตนเอง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทำได้ง่ายโดยใช้ไฟส่องสว่างร่วมกับกระจก เพื่อดูเนื้อเยื่อในช่องปากบริเวณริมฝีปาก เหงือก ลิ้น เนื้อเยื่อพื้นปาก และเพดานปาก คลำหาก้อนบริเวณลำคอทั้งสองข้างและใต้คาง 2. ตรวจริมฝีปาก ให้สังเกตุริมฝีปากข้างนอกว่าพบความผิดปกติไหม จากนั้นใช้นิ้วมือจับริมฝีปาก ดึงริมฝีปากออกมาข้างหน้าและดูเนื้อเยื่อด้านใน ทั้งริมฝีปากบนและล่าง สังเกตุเหงือกด้านหน้าว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ 3. กระพุ้งแก้ม ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลาง จับเนื้อเยื่อกระพุ้งแก้มด้านใน เนื้อโป้งจับกระพุ้งแก้มด้านนอก แล้วดึงไปข้างๆ ให้ตรวจและสังเกตุเหงือกด้านหลังฟันกรามล่างว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ 4.